พร้อมเข้าสู่ IPO อย่างมั่นใจ ด้วยการจัดการผลประโยชน์พนักงานอย่างมีประสิทธิภาพ
- อาจารย์ทอมมี่ พิเชฐ

- 17 ก.ค.
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 4 พ.ย.

การเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ผ่านกระบวนการ IPO (Initial Public Offering) เป็นเป้าหมายของหลายกิจการที่ต้องการขยายกิจการและดึงดูดเงินทุนจากนักลงทุน การเตรียมความพร้อมจึงไม่เพียงแค่เรื่องของการเงินและการตลาดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการบริหารจัดการภาระผูกพันระยะยาว โดยเฉพาะผลประโยชน์ของพนักงาน ซึ่งต้องมีการคำนวณผลประโยชน์พนักงานอย่างถูกต้องและสอดคล้องกับมาตรฐานการบัญชีสากล เพื่อให้บริษัทมีภาพลักษณ์ที่โปร่งใสและเชื่อถือได้
เปลี่ยนมาตรฐาน เปลี่ยนมุมมอง
กิจการที่ยังไม่ได้เข้า IPO มักใช้ TFRS for NPAEs ซึ่งเน้นความง่ายและยืดหยุ่นในการรายงาน แต่เมื่อเข้าสู่ IPO บริษัทต้องเปลี่ยนมาใช้ TFRS for PAEs ซึ่งครอบคลุมมาตรฐานหลายฉบับที่เข้มข้นขึ้น หนึ่งในมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการคำนวณผลประโยชน์พนักงานโดยตรงคือ มาตรฐานบัญชีฉบับที่ 19 หรือ TAS19
TAS 19 เป็นมาตรฐานที่กำหนดให้บริษัทต้องประเมินหนี้สินจากผลประโยชน์พนักงานล่วงหน้าอย่างมีหลักการ เช่น การใช้ข้อมูลทางสถิติ อายุเฉลี่ย อัตราการลาออก และสมมุติฐานทางเศรษฐกิจ ซึ่งต้องผ่านการวิเคราะห์และคำนวณอย่างมีระบบและโปร่งใส
ทำไมต้องคำนวณผลประโยชน์พนักงานให้ละเอียด?
เพื่อสะท้อนภาพการเงินที่แท้จริงและลดความคลาดเคลื่อนของข้อมูล
สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน ว่าบริษัทไม่ได้ละเลยภาระผูกพันระยะยาว
ป้องกันความเสี่ยงด้านกฎหมายและภาษีจากการละเลยข้อกำหนด
วางแผนทรัพยากรบุคคลได้แม่นยำยิ่งขึ้น มีข้อมูลสนับสนุนเชิงกลยุทธ์
การคำนวณผลประโยชน์พนักงานที่รอบด้าน ยังเป็นพื้นฐานสำหรับการจัดสรรงบประมาณ การประเมินต้นทุนต่อหัว และการออกแบบนโยบายสวัสดิการในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การวัดมูลค่าใหม่และผลกระทบที่ควรรู้
เมื่อใช้การคาดการณ์ล่วงหน้า สิ่งที่เลี่ยงไม่ได้คือ "ส่วนเบี่ยงเบนจากความเป็นจริง" TAS 19 จึงกำหนดให้มีการวัดมูลค่าใหม่เมื่อสมมติฐานเปลี่ยนแปลง และต้องบันทึกผลต่างในงบการเงินอย่างชัดเจน ซึ่งกระบวนการนี้ช่วยให้บริษัทปรับตัวและปรับแผนได้ตลอดเวลา
นอกจากนี้ยังต้องมีการทบทวนเป็นระยะ เช่น ทุกปี หรือทุกสามปี เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป และการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพนักงานภายในบริษัท
แยกประเภทค่าใช้จ่ายเพื่อความชัดเจน
TAS 19 ให้แยกค่าใช้จ่ายออกเป็น "ต้นทุนบริการ" กับ "ดอกเบี้ยสุทธิ" ซึ่งแตกต่างจากการรับรู้ค่าใช้จ่ายตาม TFRS for NPAEs ที่ให้รวมเป็นก้อนเดียวกันไปเลย
วางแผนการคำนวณผลประโยชน์พนักงานตาม TAS 19 อย่างไร
วิเคราะห์ว่าสิทธิประโยชน์พนักงานใดบ้างที่บริษัทต้องตั้งเป็นหนี้สิน
รวบรวมข้อมูลพนักงาน เช่น วันเริ่มงาน อายุ เงินเดือน
ใช้บริการผู้เชี่ยวชาญในการคำนวณผลประโยชน์พนักงานตามหลักคณิตศาสตร์ประกันภัย
สร้างแบบจำลองทางการเงินเพื่อตรวจสอบความสอดคล้องของผลกระทบที่เกิดขึ้นในงบการเงิน
เริ่มต้นคำนวณล่วงหน้าอย่างน้อย 2-3 ปี เพื่อให้ผู้บริหารเห็นแนวโน้มและวางแผนรองรับได้ทัน
ทางลัดที่ปลอดภัย: ใช้บริการมืออาชีพ
การคำนวณผลประโยชน์พนักงานตาม TAS 19 ไม่ใช่แค่เรื่องของสูตรหรือสมมติฐาน แต่ต้องมีความเข้าใจในระบบบัญชี ภาษี แนวโน้มแรงงาน และข้อควรรู้ต่างๆ อีกมาก ดังนั้น การใช้บริการจากบริษัทที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน จะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความแม่นยำได้อย่างมาก
โดยทางทีม ABS พร้อมเป็นพาร์ตเนอร์ด้านการคำนวณผลประโยชน์พนักงานขององค์กรคุณ ด้วยความชำนาญเฉพาะทางจากทีมคณิตศาสตร์ประกันภัยระดับเฟลโล่ ที่ได้รับการรับรองจากอเมริกา อังกฤษ และไทย เราเน้นการให้บริการที่แม่นยำ โปร่งใส และเป็นระบบ ด้วยประสบการณ์มากกว่า 25 ปี และผลงานที่ได้รับการยอมรับจากบริษัทกว่า 2,000 แห่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ
บทสรุป
การเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไม่ใช่เรื่องของกำไรเพียงอย่างเดียว แต่คือการบริหารความมั่นคงในระยะยาว หนึ่งในปัจจัยหลักคือการคำนวณผลประโยชน์พนักงานอย่างเป็นระบบและแม่นยำ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมและความโปร่งใสของบริษัทต่อสายตานักลงทุนอย่างแท้จริง
บริษัทที่สามารถคำนวณผลประโยชน์พนักงานได้อย่างรัดกุม และสื่อสารตัวเลขเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนในงบการเงิน จะได้เปรียบในการแข่งขัน สร้างความมั่นใจให้กับผู้ถือหุ้น และเป็นพื้นฐานในการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
เขียนและเรียบเรียงโดย อาจารย์ทอมมี่ (พิเชฐ เจียรมณีทวีสิน)
FSA, FIA, FRM, FSAT, MBA, MScFE (Hons), B.Eng (Hons)
อดีตนายกสมาคมนักคณิตศาสตร์ประกันภัยแห่งประเทศไทย และอาจารย์บรรยายด้านการคำนวณผลประโยชน์พนักงานด้วยหลักคณิตศาสตร์ประกันภัย ตามมาตรฐานบัญชี ฉบับที่ 19
ขอสงวนสิทธิ์ของเนื้อหาในบทความ ไม่ให้นำไปใช้แสวงหาผลประโยชน์ใด ๆ ในเชิงพาณิชย์ นอกจากจะได้รับอนุญาตจากทางบริษัท ABS เท่านั้น




ความคิดเห็น