การคำนวณผลประโยชน์พนักงานตามมาตรฐาน TAS19
- อาจารย์ทอมมี่ พิเชฐ
- 2 ก.ค.
- ยาว 1 นาที

การคำนวณผลประโยชน์พนักงานตามมาตรฐานบัญชีไทย ฉบับที่ 19 (TAS19) มีความสำคัญอย่างมากในการบริหารจัดการการเงินขององค์กร เนื่องจากเป็นการวางแผนล่วงหน้าเพื่อเตรียมรับมือกับภาระผูกพันที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
การคำนวณและตั้งสำรองเงินอย่างถูกต้องไม่เพียงช่วยให้บริษัทปฏิบัติตามมาตรฐานบัญชี แต่ยังเพิ่มความมั่นคงทางการเงิน ลดความเสี่ยงจากการขาดทุนเมื่อถึงเวลาที่ต้องจ่ายผลประโยชน์ให้พนักงาน เนื่องจากผลประโยชน์พนักงานไม่ได้มีแค่เงินเดือนหรือโบนัส แต่ยังรวมถึงภาระผูกพันในระยะยาวที่อาจเกิดขึ้นหลังจากพนักงานออกจากงานหรือเกษียณอายุ
หากไม่มีการคำนวณและวางแผนอย่างเหมาะสม อาจทำให้บริษัทต้องเผชิญกับปัญหาทางการเงินอย่างหนักในอนาคต
ประเภทของผลประโยชน์พนักงานตามมาตรฐาน TAS19
ผลประโยชน์ระยะสั้น: เงินเดือน โบนัส ค่าลาป่วย ค่าลาพักร้อน ที่ต้องจ่ายในระยะเวลาสั้น ๆ
ผลประโยชน์หลังเลิกจ้าง: เงินชดเชยตามกฎหมายหรือเงื่อนไขในสัญญาจ้างงานเมื่อพนักงานถูกปลดออกหรือไล่ออกจากงาน
ผลประโยชน์หลังออกจากงาน: แบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ
โครงการสมทบเงิน (Defined Contribution): กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ที่นายจ้างและลูกจ้างร่วมกันสมทบเงิน และไม่การันตีว่าจะได้เงินคืนไปเท่าไร
โครงการผลประโยชน์ (Defined Benefit): เงินบำนาญหรือบำเหน็จ ที่นายจ้างมีภาระต้องจ่ายตามเงื่อนไขซึ่งการันตีไว้อย่างชัดเจน
ผลประโยชน์ระยะยาวอื่น ๆ: เช่น เงินรางวัลหรือโบนัสเมื่อทำงานครบ 20 ปีขึ้นไป
การนำคณิตศาสตร์ประกันภัยมาใช้ในการคำนวณ
หลักคณิตศาสตร์ประกันภัย (Actuarial Science) ถูกนำมาใช้ในการคำนวณผลประโยชน์พนักงาน เพื่อให้สามารถคาดการณ์และวางแผนเงินสำรองได้อย่างแม่นยำ โดยการนำข้อมูลด้านคณิตศาสตร์ สถิติศาสตร์ และการเงินมาผสมผสาน ทำให้การคาดการณ์มีความน่าเชื่อถือและสามารถปรับใช้ได้ในสถานการณ์จริง
ตัวอย่างของการคำนวณเช่น การคาดการณ์จำนวนพนักงานที่อาจลาออก การคำนวณเงินเดือนที่อาจเพิ่มขึ้นในอนาคต หรือการคาดการณ์อายุเกษียณ เพื่อให้บริษัทมีข้อมูลที่เพียงพอในการจัดเตรียมเงินสำรองและวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผลลัพธ์จากการคำนวณผลประโยชน์พนักงานตามมาตรฐาน TAS19
เมื่อดำเนินการคำนวณผลประโยชน์พนักงานตามหลักคณิตศาสตร์ประกันภัยและมาตรฐาน TAS19 อย่างถูกต้อง จะได้ผลลัพธ์ที่ช่วยให้บริษัทมีข้อมูลในการวางแผนทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ ผลลัพธ์ที่ได้ประกอบด้วย:
หนี้สินและค่าใช้จ่ายจากการคำนวณ: บริษัทจะทราบถึงจำนวนเงินสำรองที่ต้องมี ณ สิ้นปีงบประมาณ เพื่อรองรับภาระผูกพันในอนาคต ทำให้สามารถวางแผนการเงินได้อย่างรัดกุม
คาดการณ์กระแสเงินสด: ช่วยให้บริษัทสามารถคาดการณ์กระแสเงินสดที่จะต้องจ่ายในปีงบประมาณถัดไป รวมถึงคาดการณ์ในระยะยาว ว่ามีจำนวนเท่าใด และเมื่อใดที่ต้องจ่าย
การวิเคราะห์ความอ่อนไหว: การเปลี่ยนแปลงของสมมติฐาน เช่น อัตราการขึ้นเงินเดือนหรืออัตราดอกเบี้ย สามารถส่งผลต่อผลลัพธ์อย่างไร การวิเคราะห์ความอ่อนไหวทำให้บริษัทสามารถปรับกลยุทธ์ได้อย่างทันเวลา
หมายเหตุประกอบงบการเงิน: การจัดทำหมายเหตุประกอบงบจะช่วยให้ผู้สอบบัญชีและผู้เกี่ยวข้องสามารถตรวจสอบและวิเคราะห์ผลกระทบจากภาระผูกพันผลประโยชน์พนักงานได้อย่างโปร่งใส
สรุป
การคำนวณผลประโยชน์พนักงานตามมาตรฐานบัญชีไทย ฉบับที่ 19 (TAS19) ไม่เพียงช่วยให้บริษัทปฏิบัติตามกฎระเบียบ แต่ยังเพิ่มความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว การนำหลักคณิตศาสตร์ประกันภัยมาช่วยในการคำนวณทำให้บริษัทสามารถคาดการณ์ค่าใช้จ่ายและตั้งสำรองเงินได้อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการขาดทุนหรือปัญหาทางการเงินในอนาคต หากบริษัทของคุณต้องการความเชี่ยวชาญในการคำนวณ ติดต่อบริษัท ABS โดยอาจารย์ทอมมี่ ผู้คร่ำหวอดในวงการคณิตศาสตร์ประกันภัยมากว่า 25 ปี และให้คำปรึกษาด้านการคำนวณผลประโยชน์พนักงานไม่น้อยกว่า 2,000 บริษัท
อ้างอิงจาก: https://actuarialbiz.com/th/knowledgedetails/258
เขียนและเรียบเรียงโดย อาจารย์ทอมมี่ (พิเชฐ เจียรมณีทวีสิน)
FSA, FIA, FRM, FSAT, MBA, MScFE (Hons), B.Eng (Hons)
อดีตนายกสมาคมนักคณิตศาสตร์ประกันภัยแห่งประเทศไทย และอาจารย์บรรยายด้านการคำนวณผลประโยชน์พนักงานด้วยหลักคณิตศาสตร์ประกันภัย ตามมาตรฐานบัญชี ฉบับที่ 19
ขอสงวนสิทธิ์ของเนื้อหาในบทความ ไม่ให้นำไปใช้แสวงหาผลประโยชน์ใด ๆ ในเชิงพาณิชย์ นอกจากจะได้รับอนุญาตจากทางบริษัท ABS เท่านั้น
Commenti